Monday, April 4, 2016

.ฉับโผง,ลูกหวือ,ลูกหึ่ง

1.  กำหมุนหรือกังหันหมุน หรือ ลูกหวือ


หลักการทางวิทยาศาสตร์ : การหมุนของกังหันหมุนนั้นมีหลักการทางวิทยาศาสตร์ว่าหมุนได้เพราะมีทอร์กจากเชือกมากระทำกับแกนหมุน เมื่อปล่อยเชือกจนหมด ความเฉื่อยเชิงมุมก็ทำให้แกนหมุนต่อไป และเริ่มขดเชือกเข้าไปใหม่เพื่อพร้อมดึงเชือกอีกครั้ง
การนำไปประยุกต์ใช้
: การทำสว่านมือ


2. ฉับโผง



หลักการทางวิทยาศาสตร์ : การสร้างแรงอัดอากาศ ในกระบอกไม้ไผ่ โดยเมื่อใส่กระดาษที่ชุบน้ำให้ชุ่มหรือลูกพลับพลาในกระบอกไม้ไผ่แล้วจะเกิดการสัมผัสกันระหว่างผิวของลูกกระสุน(กระดาษที่ชุบน้ำให้ชุ่มหรือลูกพลับพลา)กับภายในกระบอกไม้ไผ่ ยิ่งผิวสัมผัสระหว่างผิวทั้งสองแน่นมากเท่าไหร่ยิ่งสามารถกั้นอากาศได้ดี และเมื่อกระสุนลูกแรกที่บรรจุเข้าไปด้านหน้ากระบอกจะสามารถกั้นอากาศไว้ เมื่อบรรจุลูกที่สองตามหลังมาจะทำให้ปริมาตรพื้นภายในกระบอกไม้ไผ่ลดลงระหว่างลูกแรกแต่ปริมาณของลมในกระบอกไม้ไผ่ยังคงเท่าเดิม และเมื่อถูกอัดด้วยลูกที่สองมาเรื่อยๆทำให้มีอากาศอัดแน่นมากขึ้นตามแรงดันของผู้เล่น ยิ่งดันแรงยิ่งไปได้ไกล  โดยแรงที่เหลือส่วนหนึ่งจะเปลี่ยนเป็นเสียง และความร้อน
การนำไปใช้ประโยชน์ : การนำไปออกแบบทำลูกสูบเครื่องยนต์

3. ลูกหึ่ง





หลักการทางวิทยาศาสตร์ โมเมนต์ความเฉื่อย คือเมื่อเราออกแรงหมุนแผ่นเหล็กกลมจะทำให้เชือกพันกันเป็นเกลียวหลายๆรอบและเมื่อดึงให้ตึง ลูกหึ่งก็จะหมุนตามเกลียวที่ได้หมุนไว้ และเมื่อหมุนจนหมดเกลียวลูกหึ่ก็ยังหมุนต่อไปเพราะยังมีโมเมนต์ความเฉื่อย เนื่องจากวัตถุจะพยายามรักษาสภาพเดิมของการหมุนเอาไว้  ดังนั้น เชือกจึงหมุนพันกลับมาเป็นเกลียวพร้อมที่จะดึงเชือกอีกครั้ง 

No comments:

Post a Comment