อุปกรณ์ที่ใช้ 1. ดินน้ำมัน 2. ฝาปิดปากกา 3. คลิปหนีบกระดาษ 4. คีมตัดลวด 5. แก้วน้ำ 6. ขวดปล๊าสติก
ขั้นตอนวิธีการ 1. ปลายฝาปากกายึดกับดินน้ำมันและยึดตะขอจากคลิปหนีบกระดาษ
2. นำไปลอยในแก้วน้ำให้เริ่มลอยได้พอดี
3. เติมน้ำในขวดให้เกือบเต็ม แล้วนำชุดฝาปิดปากกาตาม 2 ใส่ในขวด แล้วปิดโดยหมุนเกลียวฝาปิดให้แน่น
4. ถ้าใช้มือบีบขวด ฝาปิดปากกาหรือตัวดำน้ำจะจมหรือดำน้ำลงไปก้นขวด เมื่อปล่อยมือไม่บีบ ตัวดำน้ำจะเคลื่อนขึ้นมาอีกครั้ง
4. ถ้าใช้มือบีบขวด ฝาปิดปากกาหรือตัวดำน้ำจะจมหรือดำน้ำลงไปก้นขวด เมื่อปล่อยมือไม่บีบ ตัวดำน้ำจะเคลื่อนขึ้นมาอีกครั้ง
เล่นเกม โดย ให้ดำน้ำไปเกี่ยวคริบหนีบกระดาษขึ้นมาให้ได้
ให้อธิยายการจมลอยของเรือดำน้ำ โดยแต่ละคอนเขียนแสดงความคิดเห็นในบล็อกนี้
การลอยจมขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของวัตถุที่ลอยจม
ReplyDeleteThis comment has been removed by the author.
ReplyDeleteการลอยตัว ของฝาปากกาขึ้นอยู่กับความหนาแน่นเมื่อวัตถุมีความหนาแน่นน้อยกว่าน้ำวัตถุก็จะลอย แต่ถ้าวัตถุมีความหนาแน่นมากกว่าน้ำวัตถุก็จะจม
Deleteการที่วัตถุสามารถลอยตัวอยู่ในน้ำได้ เนื่องจากวัตถุนั้นมีความหนาแน่นมากกว่าน้ำ และน้ำก็มีแรงดันวัตถุให้ลอยขึ้นมา ซึ่งจะเรียกว่า " แรงลอยตัว "
ReplyDeleteการที่วัตถุสามารถลอยตัวอยู่ในน้ำได้ เนื่องจากวัตถุนั้นมีความหนาแน่นมากกว่าน้ำ และน้ำก็มีแรงดันวัตถุให้ลอยขึ้นมา ซึ่งจะเรียกว่า " แรงลอยตัว "
ReplyDeleteการลอยการจมของวัตถุในน้ำจะขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของวัตถุและความหนาแน่นของน้ำ
ReplyDeleteซึ่งความหนาแน่นของน้ำก็คืออัตราส่วนของมวลต่อปริมาตร
การลอยจมของวัตถุมี3กรณีดังนี้
เมื่อวัตถุมีความหนาแน่นน้อยกว่าน้ำวัตถุก็จะลอยเหนือผิวน้ำ
เมื่อวัตถุมีความหนาแน่นเท่าๆกับน้ำวัตถุก็จะลอยปริ่มน้ำ
และเมื่อวัตถุมีความหนาแน่นมากกว่าน้ำวัตถุก็จะจมลงในน้ำ
การลอยการจมของวัตถุในน้ำจะขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของวัตถุและความหนาแน่นของน้ำ
ReplyDeleteซึ่งความหนาแน่นของน้ำก็คืออัตราส่วนของมวลต่อปริมาตร
การลอยจมของวัตถุมี3กรณีดังนี้
เมื่อวัตถุมีความหนาแน่นน้อยกว่าน้ำวัตถุก็จะลอยเหนือผิวน้ำ
เมื่อวัตถุมีความหนาแน่นเท่าๆกับน้ำวัตถุก็จะลอยปริ่มน้ำ
และเมื่อวัตถุมีความหนาแน่นมากกว่าน้ำวัตถุก็จะจมลงในน้ำ
การลอยหรือจม ขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของวัตถุ หากวัตถุมีความหนาแน่นน้อยกว่าน้ำ วัตถุนั้นก็จะลอย แต่ถ้าวัตถุนั้นมีความหนาแน่นมากกว่าน้ำ วัตถุนั้นก็จะจม
ReplyDeleteการที่ฝาปิดปากกาลอยหรือจมน้ำได้นั้นขึ้นอยู่กับความหนาแน่นในฝาปิดปากเหมื่อเราบีบขวดน้ำก็จะทำให้เกิดความหนาแน่นกระจายไปทั่วทั้งขวดน้ำทำให้ฝาปิดปากที่ลอยอยู่ได้รับความหนาแน่นและมีความหนาแน่นมากกว่าน้ำจึงทำให้ฝาปิดปากกาจมน้ำและเมื่อคลายมือออกความหนาแน่นในปากกาก็น้อยกว่าน้ำทำให้ฝาปิดปากกาลอยตัวขึ้นสู่ผิวน้ำ
ReplyDeleteจมลอยขึ้นอยู่กับปริมาณความดันอากาศภายในขวด
ReplyDeleteฝาปากกาลอยได้เพราะมีอากาศถูกกักไว้ แรงลอยตัวเท่ากับน้ำหนักของน้ำที่ถูกอากาศ¬แทนที่ เมื่อเราบีบขวด ความดันภายในขวดเพิ่มขึ้น ทำให้ปริมาตรอากาศเล็กลง แรงลอยตัวจึงลดลงตามปริมาตรอากาศ ฝาปากกาจึงจม
เมื่อเราคลายมือ ความดันอากาศภายในขวดก็จะลดลง ทำให้ปริมาตรอากาศเพิ่มขึ้น แรงลอยตัวก็เพิ่มขึ้นตามปริมาตรอากาศ ฝาปากกาจึงลอย
เมื่อเราออกแรงบีบขวดน้ำ จะทำให้เรือดำน้ำดำลง เนื่องจากแรงดันจะส่งผ่านไปทั่วทุกส่วนในขวด ตามกฎของพาสคัล ทำให้อากาศภายในหลอดมีปริมาณลดลงส่งผลให้มีความหนาแน่นเพิ่มขึ้น ตามหลักการวิทยาศาสตร์แล้ว วัตถุที่มีความหนาแน่นมากกว่าน้ำจะจมน้ำ แต่เมื่อเราหยุดบีบความดันก็จะลดลง ทำให้อากาศภายในหลอดเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ความหนาแน่นของเรือดำน้ำลดลง ทำให้เรือดำน้ำลอยขึ้นมา
ReplyDeleteThis comment has been removed by the author.
ReplyDeleteวัตถุจะลอยหรือจม คือ วัตถุที่มีความหนาแน่น(ความหนาแน่นคือมวลรวมของวัตถุหารด้วยปริมาตรของวัตถุ)น้อยกว่าน้ำจะลอยน้ำส่วนวัตถุที่มีความหนาแน่นมากกว่าน้ำจะจมน้ำ แล้วการที่นักดำน้ำคาร์ทีเซียน(Cartesian Diver) มีความหนาแน่นเปลี่ยนไปมาสามารถอธิบายการใช้สมบัติของอากาศที่เมื่อโดนอัดแล้วจะมีปริมาตรลดลงและใช้หลักการของพาสคาล(Pascal’s Principle)ที่ว่าหากเราออกแรงดันกับของเหลวที่บริเวณใดๆแล้วความดันที่เกิดขึ้นจะส่งผ่านไปทั่วทั้งของเหลวอย่างเท่าๆกันเพราะฉะนั้นเมื่อเราบีบข้างขวดน้ำ ความดันที่เกิดขึ้นจะส่งผ่านไปทั่วแล้วจะไปดันอากาศที่อยู่ในนักดำน้ำของเรา ให้มีปริตรมาตรลดลงทำให้ความหนาแน่นของนักดำน้ำเพิ่มขึ้นจนมากกว่าน้ำ นักดำน้ำคาร์ทีเซียน(Cartesian Diver)จึงจมลงในทางกลับกันหากเราปล่อยมือ อากาศในนักดำน้ำคาร์ทีเซียน(Cartesian Diver)ก็จะขยายตัวกลับดังเดิมนักดำน้ำคาร์ทีเซียน(Cartesian Diver)ก็จะลอยขึ้น
ReplyDelete