ผู้ทำโครงงาน
1.
นางสาวพัชริญา แนบเนียด รหัสนักศึกษา 5681107003
2.
นางสาวศิริลักษณ์ ดำทอง รหัสนักศึกษา 5681107022
หลักการ
แม่เหล็กเป็นสารชนิดหนึ่งซึ่งสามารถออกแรงดึงดูดโลหะบางชนิดได้แม่เหล็กมีสองชนิดโดย เรียกเป็นขั้วได้แก่ขั้วเหนือและขั้วใต้เนื่องจากการค้นพบแม่เหล็กในอดีตได้ใช้แท่งแม่เหล็กเป็นเข็ม ทิศซึ่งพบว่าแท่งแม่เหล็กจะวางตัวในแนวเหนือใต้ของโลกเสมอ แรงระหว่างแม่เหล็กจะมีทั้งแรงดูด ที่เกิดจากแม่เหล็กต่างขั้วและแรงผลักที่เกิดจากขั้วเดียวกันซึ่งคล้ายคลึงกับแรงระหว่างประจุข้อแตกต่างที่สำคัญระหว่างประจุกับขั้วแม่เหล็กคือขั้วแม่เหล็กจะอยู่เป็นคู่เสมอไม่สามารถแยก ขั้วแม่เหล็กเหนือและใต้ออกจากกันได้เพราะไม่ว่าจะแบ่งแท่งแม่เหล็กให้เล็กลงเท่าใดส่วนที่แยก ออกมาจะมีขั้วเหนือใต้เสมอ สารบางอย่างสามารถทำให้เป็นแม่เหล็กได้เช่นการวางแท่งเหล็กไว้กับแม่เหล็ก แม่เหล็กจะเหนี่ยวนำให้แท่งเหล็กนั้นเป็นแม่เหล็กได้ทั้งนี้สารแม่เหล็กในธรรมชาติเกิดขึ้น จากการเหนี่ยวนำของสนามแม่เหล็กโลก
วัสดุ/อุปกรณ์
1.
กระป๋องแป้ง
2.
ฟิวเจอร์บอร์ด
3.
กรรไกร
4.
มีดคัตเตอร์
5.
ไม้บรรทัด
6.
ดินสอ
7.
แม่เหล็ก
8.
สก๊อตเทปสี
ขั้นตอนการทำ
1.
ตัดฟิวเจอร์บอร์ด คล้ายรูปหัวเรือ 2 อัน และตัดเป็นรูปสามเหลี่ยม 1 อัน
2.
นำแผ่นฟิวเจอร์บอร์ดที่ตัดมาประกอบให้ชิดกัน
3.
ตัดฝากระป๋องแป้งอันที่เป็นฐานเรือออก
และเจาะรู 4 รู บนกระป๋องแป้ง
4.
ตัดกระป๋องแป้งอันที่จะทำหลังคา
คือตัดส่วนหัว และเจาะด้านข้าง ซึ่งจะเห็นเป็นขาอยู่
5.
นำกระป๋องแป้งที่ตัดในข้อ 3 -4
มาประกอบเข้าด้วยกัน โดยเอาขาของกระป๋องแป้งของข้อ 4 ต่อกับ กระป๋องแป้งข้อ 3 และก็จะได้เป็นตัวเรือ
6.
ประกอบส่วนที่เป็นหัวเรือเข้ากับ
ส่วนที่เป็นตัวเรือ
7.
ติดสก็อตเทปทั้งลำ
เพื่อยึดความทนทานของเรือ
8.
ติดแม่เหล็กไว้ที่ท้ายเรือเสร็จสมบูรณ์
วิธีการเล่น
นำแม่เหล็กอีกตัวไปกระทำกับท้ายเรือ
โดยถ้าเราเอาแม่เหล็กมาใกล้กับท้ายเรือโดยทำมุมประมาณ 45 องศา แล้วหันฝั่งของแม่เหล็กที่มีขั้วเดียวกันกับท้ายเรือจะทำให้เรือ
เคลื่อนที่ไปข้างหน้า และถ้าหันแม่เหล็กโดยที่ขั้วตรงกันข้ามกับท้ายเรือ
จะเห็นว่าเรือนั้น เคลื่อนที่ถอยหลัง
สรุป
สนามแม่เหล็กเป็นปริมาณเวกเตอร์มีทั้งขนาดและทิศทาง สนามแม่เหล็กมีทิศพุ่งออกจากขั้ว เหนือไปยังขั้วใต้ของแม่เหล็ก สิ่งที่น่าสนใจคือสนามแม่เหล็กสามารถสร้างอิทธิพลให้เกิดแรงกระทำ ต่อประจุได้ผลของแรงแม่เหล็กที่กระทำต่อประจุแสดงถึงความสัมพันธ์บางอย่างระหว่าง สนามแม่เหล็กกับสนามไฟฟ้า
- แม่เหล็ก (magnet) มีสองทิศที่มีลักษณะ เป็นขั้วคือ ขั้วเหนือ (N) และขั้วใต้ (S) - ขั้วต่างกันจะดูดกัน ขั้วเหมือนกันจะผลักกันด้วย แรงแม่เหล็ก (magnetic force) - แรงแม่เหล็กเกิดขึ้นด้วยสนามแม่เหล็ก - ความเป็นแม่เหล็ก (magnetism) เกิดจาก การเรียงตัวของอะตอมของสสารซึ่งเป็นคุณสมบัติภายในของวัตถุต่างๆ
- แม่เหล็ก (magnet) มีสองทิศที่มีลักษณะ เป็นขั้วคือ ขั้วเหนือ (N) และขั้วใต้ (S) - ขั้วต่างกันจะดูดกัน ขั้วเหมือนกันจะผลักกันด้วย แรงแม่เหล็ก (magnetic force) - แรงแม่เหล็กเกิดขึ้นด้วยสนามแม่เหล็ก - ความเป็นแม่เหล็ก (magnetism) เกิดจาก การเรียงตัวของอะตอมของสสารซึ่งเป็นคุณสมบัติภายในของวัตถุต่างๆ
แนวทางในการปรับปรุงขยายผล
รูปแบบการทำตัวเรืออาจจะทำได้หลายรูปแบบ
แต่สิ่งที่สำคัญของการทำของเล่นชิ้นนี้
คือ
จะต้องมี “ แม่เหล็ก ” โดยของเล่นชิ้นนี้สามรถนำไปเป็นสื่อการเรียนการสอนได้
และใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์
ข้อ1 การเคลื่อนที่ของเรือ ขึ้นอยู่กับ ขนาดของเรือ น้ำหนักของเรือ และทิศทางของแรง
ReplyDeleteข้อ2 ทิศทางการเคลื่อนที่ของเรือ ไปหน้าไปหลังจะขึ้นอยู่กับทิศทางของแรง ถ้าแรงทำมุม 0 องศา จะทำให้มีแรงมากกว่ามุมอื่นๆ
ข้อ3 การเคลื่อนที่โดยใช้ แม่เหล็กกับแม่เหล็กและแม่เหล็กกับเหล็กแตกต่างกันที่แม่เหล็กกับแม่เหล็กจะมีแรงในการทำให้เรือเคลื่อนที่มากว่าแม่เหล็กกับเหล็ก
ข้อ1 การเคลื่อนที่ของเรือ ขึ้นอยู่กับ ขนาดของเรือ น้ำหนักของเรือ และทิศทางของแรง
ReplyDeleteข้อ2 ทิศทางการเคลื่อนที่ของเรือ ไปหน้าไปหลังจะขึ้นอยู่กับทิศทางของแรง ถ้าแรงทำมุม 0 องศา จะทำให้มีแรงมากกว่ามุมอื่นๆ
ข้อ3 การเคลื่อนที่โดยใช้ แม่เหล็กกับแม่เหล็กและแม่เหล็กกับเหล็กแตกต่างกันที่แม่เหล็กกับแม่เหล็กจะมีแรงในการทำให้เรือเคลื่อนที่มากว่าแม่เหล็กกับเหล็ก